สาระน่ารู้เกี่ยวกับใบขับขี่
ใบขับขี่
ใบขับขี่ หรือ ใบอนุญาตขับขี่ คือ ใบอนุญาตขับขี่ตามกฎหมาย เพื่อนยืนยันว่า บุคคลที่มีใบขับขี่ในครอบครองเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการขับขี่ และได้รับอนุญาตให้สามารถขับขี่ถูกต้องตามกฎหมาย อาทิเช่น ใบขับขี่รถยนต์ ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ใบขับขี่รถรับจ้าง 

ใบขับขี่สากล หรือ ใบอนุญาตขับขี่สากล ภาษาอังกฤษ : International Driving Permit (IDP) คือ ใบอนุญาตขับขี่ที่หลายประเทศยอมรับ และจะต้องใช้ควบคู่กับใบขับขี่ที่ใช้ในประเทศบ้านเกิดเท่านั้น ลักษณะของใบขับขี่สากล จะมีขนาดใหญ่กว่าหนังสือเดินทางเล็กน้อยและมีคำแปลหลายภาษา มีรูปภาพผู้ถือใบอนุญาตขับขี่ เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน และง่ายต่อการตรวจสอบ  ใบขับขี่มีกี่ประเภท
นอกจากใบขับขี่สากลที่ใช้ทั่วโลกแล้ว ยังมีการอนุญาตใบขับขี่ อีก 11 ประเภทที่สามารถใช้งานตามที่กฎหมายกำหนด ดังนี้

ชนิดของใบขับขี่
อายุ (ปี)
1. ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว 
– ใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราว 
– ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อชั่วคราว 
– ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว

2
2
2
2. ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล
5
3. ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล
5
4. ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ
3
5. ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ
3
6. ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
5
7. ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ
3
8. ใบอนุญาตขับรถบดถนน
5
9. ใบอนุญาตขับรถแทรกเตอร์
5
10. ใบอนุญาตขับรถชนิดอื่นนอกจาก (1) ถึง (9)
5
11. ใบอนุญาตขับรถตามความตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี (ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ)
1

อ้างอิงจาก : กรมการขนส่งทางบก

ประโยชน์ของใบขับขี่ 
สำหรับประโยชน์ของใบอุญาตขับขี่รถยนต์ ถือว่ามีประโยชน์แผงอยู่ไว้มากมาย นอกจากจะถูกกฎหมายแล้ว ยังสามารถเป็นหลักฐานยืนยันว่า ผู้ขับขี่ได้รับการฝึกอบรมและสอบปฎิบัติมาแล้ว และมีประโยชน์อีกมากมาย อาทิเช่น 
  • ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น เฉี่ยวชน หรือ ร้ายแรง และผู้ขับขี่รถคันเอาประกันภัยมี ใบขับขี่ ผู้ขับขี่จะได้ค่าเสียหายส่วนแรก หรือ ค่าสินไหมทดแทน แต่ถ้าผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว ไม่มีใบขับขี่ จะโดนบริษัทประกันภัยปัดความรับผิดชอบ และไม่คุ้มครองเนื่องจาก ไม่มีใบอนุญาตขับขี่  
  • หากเจอด่านตรวจ และเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ เอกสารใบขับขี่ ถ้าไม่มีจะถูกเปรียบเทียบปรับ แต่ถ้ามีก็สบายใจได้เลย 
  • บางกรณี สามารถใช้แสดงตัวตนแทนบัตรประจำตัวประชาชนได้ หรือ เพื่อสมัครงานหากบริษัทต้องการผู้มีใบขับขี่เท่านั้น 
ข้อสอบใบขับขี่ 
ก่อนจะ สอบใบขับขี่ เราจะต้องรู้ แนวข้อสอบใบขับขี่ เสียก่อนเพราะสมัยนี้กว่าจะได้ ใบขับขี่ สักใบไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนื่องจากทางกรมขนส่งทางบก เล็งเห็นถึงความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากขึ้น วิธีการสอบใบขับขี่ จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาศึกษาไม่น้อย และเป็นการเดายากว่าข้อสอบจะออกในรูปแบบไหน เพราะมีการเปลี่ยนทุกๆปี โดยเฉพาะ ข้อสอบใบขับขี่ 2560 บอกเลยว่ายากมาก ถึงแม้ว่าจะมี เฉลยข้อสอบใบขับขี่รถยนต์แบบหมดเปลือก หรือหนังสือ ข้อสอบใบขับขี่รถยนต์พร้อมเฉลย บางคนก็ยังทำไม่ได้ตามเกณฑ์เลยด้วยซ้ำ  

ข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ กับ ข้อสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ต่างกันอย่างไร ? 

การสอบใบขับขี่รูปแบบใหม่ ผู้ขับขี่สามารถทำใบขับขี่พร้อมกัน2ใบได้ หรือพูดกันง่ายๆ ก็คือ สอบใบขับขี่รถยนต์กับรถจักรยานยนต์ในครั้งเดียวได้เลย เพราะว่าข้อสอบข้อเขียนใบขับขี่รถยนต์กับรถมอเตอร์ไซค์เหมือนกัน เนื่องจากว่าการขับขี่บนท้องถนนผู้ขับขี่จะต้องรู้ กฎหมายจราจร กติกาการใช้ถนนร่วมกันกับยานพาหนะทุกประเภท ซึ่งจะมีความแตกต่างกันตรง การสอบปฎิบัติ

ต่อใบขับขี่ 2560 
หาก ใบขับขี่หมดอายุ สามารถ ต่อใบขับขี่รถยนต์ ต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้ที่ กรมการขนส่งทางบก ต่อใบขับขี่ 1 ปี เป็น 5 ปี หรือ 2 ปี เป็น 5ปี ก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็น ล่วงหน้า หรือ วันที่หมดอายุได้เลย แต่สำหรับคนที่มี ใบขับขี่ตลอดชีพ ไม่รู้สึกอะไร เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมาต่อใบขับขี่นั่นเอง แต่ก็มีช่วงหนึ่งที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการ ยกเลิกใบขับขี่ตลอดชีพ ซึ่งข่าวนั้นไม่เป็นจริงครับ ไม่มีการยกเลิกใดๆทั้งสิ้น แต่ถ้าสมัครใจก็ทำได้ครับ 

ถ้าเกิดว่า ใบขับขี่ตลอดชีพหาย หรือ ชำรุด สามารถติดต่อทำใหม่ได้ที่กรมขนส่งทางบก ได้เลยนะครับ ถ้าถามว่าได้เหมือนเดิมไหม ตอบว่าได้ครับ ใบขับขี่ตลอดชีพเหมือนเดิม แค่เสียค่าบริการครับ

ดังนั้นเรามาดูกันว่าการ ต่อใบขับขี่ ใช้อะไรบ้าง ทำได้ที่ไหน ฉบับอัพเดทใหม่ 2017 หรือ 2560 นั้นไม่ยุ่งยากเหมือนสมัยก่อน แต่ก็ต้องทำตามกฎระเบียบของกรมขนส่งทางบก

ต่อใบขับขี่ใช้เอกสารอะไรบ้าง
  • บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) 
  • ใบรับรองแพทย์ไม่เกิน 1 เดือน (ใบรับรองแพทย์จากคลินิกสามารถนำมายื่นได้)  
  • ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว เอกสารอื่น ๆ อาทิเช่น หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ – สกุล และ คำนำหน้านามในกรณีสมรส 

ต่อใบขับขี่ได้ที่ไหน 
สำหรับคนที่จะ ต่อใบขับขี่รถยนต์ สามารถต่อได้ที่ กรมขนส่งทางบก เท่านั้น และต้องดำเนินการด้วยตนเอง ห้ามมิให้ใครกระทำการแทนเด็ดขาด เนื่องจากจะต้องถ่ายรูป แต่สมัยนี้มีอบรมข้างนอกและเข้ามาทำได้เลย สำหรับ 5 ปี เป็น 5 ปี

เงื่อนไขการต่อใบขับขี่
  • ใบอนุญาตขับขี่ที่มีอายุสั้นกว่า 1 ปีต้องมาสอบใหม่ (จากเดิม 2 ปี) 
  • เปลี่ยนจากการอบรม 4 ชั่วโมงเป็น 5 ชั่วโมง 
  • ใช้เวลากี่วัน : ใช้เวลา 2 วันเต็ม จากเมื่อก่อนที่ 1 วัน 
  • สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ ภายใน 3 เดือนก่อนถึงวันครบกำหนด